o-ring-x-ring_Cover
Tip & Tricks

รู้หรือไม่ โซ่มอเตอร์ไซค์แบบ O-Ring กับ X-Ring ต่างกันอย่างไร?


     รถมอเตอร์ไซค์สามารถแบ่งการขับเคลื่อนออกเป็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน คือ ‘เกียร์’ ส่วนอีกระบบคือ ระบบส่งกำลัง ซึ่งก็คือ ‘สายพาน หรือ โซ่’
หากเป็นระบบส่งกำลังที่ใช้ ‘สายพาน’ จะนิยมใช้เป็นระบบส่งกำลังสำหรับรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ออโตเมติก
หากเป็นระบบส่งกำลังที่ใช้ ‘โซ่’ จะเป็นระบบส่งกำลังสำหรับรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ธรรมดา


วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จัก ‘โซ่มอเตอร์ไซค์’ อีกหนึ่งชิ้นส่วนสำคัญในรถมอเตอร์ไซค์ระบบโซ่ที่มีให้เลือกใช้หลายแบบ ทั้งโซ่มอเตอร์ไซค์ธรรมดา โซ่มอเตอร์ไซค์แบบ O-ring และโซ่มอเตอร์ไซค์ X-ring แต่ละแบบมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างเราหาคำตอบมาให้แล้ว

 
รู้หรือไม่-โซ่แบบ-O-Ring-กับ-X-Ring-ต่างกันอย่างไร_1

 

โซ่มอเตอร์ไซค์แบบธรรมดา

โซ่มอเตอร์ไซค์จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ หลายอย่าง ได้แก่ ลูกกลิ้ง ปลอกสลัก สลัก แผ่นประกบด้านในและด้านนอก ทั้งหมดถูกนำมาร้อยต่อกันให้เป็นเส้น ซึ่งถ้าเป็นโซ่มอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาที่ไม่ได้ต้องการสมรรถนะสูงก็จะมีชิ้นส่วนตามที่กล่าวไป

ข้อดีของโซ่มอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาก็คือราคาถูก ส่วนข้อเสียคืออายุการใช้งานจะค่อนข้างสั้นและต้องคอยหยอดน้ำมันหล่อลื่นเป็นประจำ เนื่องจากไม่มีแหวนยาง (จะพูดถึงในข้อถัดไป) มาช่วยลดแรงเสียดทาน

 
รู้หรือไม่-โซ่แบบ-O-Ring-กับ-X-Ring-ต่างกันอย่างไร_2

 

โซ่มอเตอร์ไซค์แบบ O-Ring

โซ่มอเตอร์ไซค์แบบ O-Ring ที่มักใช้ในรถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูง ถูกพัฒนาขึ้นมาจากโซ่รถมอเตอร์ไซค์แบบธรรมดา โดยนำข้อเสียเรื่องแรงเสียดทานมาแก้ไขเพื่อให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น และไม่จำเป็นต้องคอยหยอดน้ำมันหล่อลื่นบ่อยๆ

วิธีการก็คือระหว่างข้อต่อแต่ละชิ้นจะมี O-Ring หรือวงแหวนยางรูปตัวโอ (O) คั่นกลางไว้ ซึ่งหน้าที่ของวงแหวนยางนี้ก็คือกักเก็บจาระบีไว้เพื่อช่วยหล่อลื่นข้อต่อและป้องกันฝุ่น ช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานกว่าโซ่รถมอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาได้ถึง 3 เท่า แถมไม่ต้องดูแลรักษาบ่อย หยอดน้ำมันเมื่อรู้สึกว่าโซ่มอเตอร์ไซค์มีเสียงดัง หรือหลังจากการขี่ลุยฝนลุยน้ำ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับราคาที่สูงกว่าโซ่มอเตอร์ไซค์แบบธรรมดาด้วย

 
รู้หรือไม่-โซ่แบบ-O-Ring-กับ-X-Ring-ต่างกันอย่างไร_3

 

โซ่มอเตอร์ไซค์แบบ X-ring

นวัตกรรมถัดจากโซ่รถมอเตอร์ไซค์แบบ O-Ring ก็คือโซ่มอเตอร์ไซค์แบบ X-Ring ซึ่งถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการกักเก็บจาระบีได้มากขึ้นโดยเปลี่ยนจากการคั่นข้อต่อโซ่ด้วยวงแหวนยางรูปตัวโอมาใช้วงแหวนยางรูปตัวเอ็กซ์ (X) แทน

ข้อดีคือสามารถกักเก็บจาระบีได้ดีกว่าเพราะลักษณะของวงแหวนรูปตัว X ที่มีร่องเยอะกว่า ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการลดแรงเสียดทานระหว่างข้อต่อมากกว่าโซ่มอเตอร์ไซค์แบบ O-Ring และมีความลื่นไหลมากกว่า รวมถึงใช้งานได้นานกว่าด้วย ส่วนข้อเสียคือเรื่องราคา แต่เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานและประสิทธิภาพแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า

ปกติโซ่รถมอเตอร์ไซค์แบบธรรมดามักจะใช้ในรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กทั่วไป ส่วนโซ่มอเตอร์ไซค์แบบ O-Ring และ โซ่มอเตอร์ไซค์แบบ X-Ring นั้นมักใช้ในรถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของมอเตอร์ไซค์และรูปแบบการใช้งานเป็นหลัก สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกใช้โซ่มอเตอร์ไซค์ประเภทไหนก็ต้องหมั่นดูแลรักษาตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะล้างทำความสะอาดหรือหล่อลื่น และหากไม่มั่นใจว่าถึงเวลาเปลี่ยนโซ่รถมอเตอร์ไซค์แล้วหรือยังสามารถเข้าเช็กได้ที่ศูนย์ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทุกสาขา ทั่วประเทศ