shock_absorber_Cover
Tip & Tricks

ระบบกันสะเทือนรถมอเตอร์ไซค์ (โช๊คอัพ) คืออะไร

     

Shock Absorber คือ อุปกรณ์ในระบบกันสะเทือนของรถมอเตอร์ไซค์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘โช๊คอัพ’  ระบบที่ช่วยให้การควบคุมรถและการเบรกของรถมีความปลอดภัย และสะดวกสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้นเมื่อเกิดการสั่นสะเทือนหรือเกิดการกระแทกบนท้องถนน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักระบบกันสะเทือนให้มากขึ้น ตามหัวข้อต่อไปนี้ 
                      

 
shock_absorber_1
 

โช๊คอัพ ทำหน้าที่อะไร?

โช๊คอัพ มาจากคำว่า Shock Absorber เป็นอุปกรณ์รองรับในระบบกันสะเทือน ทำหน้าที่รองรับหรือชะลอแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับตัวรถมอเตอร์ไซค์เมื่อขับขี่บนเส้นทางที่พื้นผิวไม่ราบเรียบ หรือ ขรุขระ ซึ่ง ประโยชน์ของโช๊คอัพ ก็คือช่วยให้เกิดความนิ่มนวลระหว่างการขับขี่ ช่วยให้รถทรงตัวได้ดีเวลาเลี้ยว เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ และยังช่วยให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนเท่ากันทุกล้อ เป็นการรักษาสภาพยางไปในตัวด้วย

เราสามารถแบ่งระบบกันสะเทือนรถของมอเตอร์ไซค์ออกเป็น 2 แบบ คือ ‘ระบบกันสะเทือนหน้า’ และ ‘ระบบกันสะเทือนหลัง’ ทั้ง 2 ระบบ จะมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานรถ

 

วิธีการเลือกโช๊คอัพมอเตอร์ไซค์

เมื่อต้องเปลี่ยนโช๊คอัพมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนตามอายุการใช้งานหรือเปลี่ยนเพื่อปรับแต่งรถ มีสิ่งที่ควรคำนึงถึง ดังนี้

  • แกนโช๊คอัพ ควรเลือกแกนโช๊คอัพที่เคลือบผิวฮาร์ดโครม (Hard Chrome) และผ่านการเจียละเอียด เพราะแกนโช๊คอัพเป็นส่วนที่มีการเสียดสีตลอดเวลาขณะที่เราขี่มอเตอร์ไซค์ การเคลือบผิวฮาร์ดโครมและเจียละเอียดจะช่วยให้แกนโช๊คทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า โดยแกนโช๊คที่เคลือบผิวฮาร์ดโครมจะมีความเงารวมถึงช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนบนผิวของแกนโช๊คอัพ

  • ซีลน้ำมัน โช๊คอัพจะลดประสิทธิภาพลงทันทีถ้าน้ำมันในกระบอกไฮโดรลิกเกิดการรั่วซึมเนื่องจากซีลน้ำมันเสื่อมคุณภาพ ดังนั้น จึงควรเลือกโช๊คอัพที่มาพร้อมซีลน้ำมันที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง มีความทนทาน ไม่รั่วซึมง่าย

  • น้ำมันไฮโดรลิก ควรใช้น้ำมันเฉพาะทางที่มีส่วนประกอบของสารลดแรงเสียดสี และต้องมีสารป้องกันการรวมตัวของน้ำมันกับออกซิเจนซึ่งสามารถกัดกร่อนผิวโลหะได้


 

ข้อควรคำนึงเกี่ยวกับโช๊คอัพมอเตอร์ไซค์

  • เปลี่ยนโช๊คอัพเมื่อครบอายุการใช้งาน ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่การวิ่งครบระยะทาง 100,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 5 ปี เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นและเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่

  • เมื่อต้องเปลี่ยนโช๊คอัพควรเปลี่ยนทั้งสองข้างพร้อมกัน และควรเปลี่ยนเป็นรุ่นที่ผู้ผลิตโช๊คทำมาเพื่อรถรุ่นนั้นๆ โดยเฉพาะ

  • หมั่นตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำมันโช๊คอัพบริเวณกระบอกไฮโดรลิก

  • ไม่ควรดัดแปลงโช๊คอัพ


 

อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าเหล่าไบค์เกอร์คงรู้แล้วว่าโช๊คอัพนั้นสำคัญขนาดไหน ดังนั้น อย่าลืมหมั่นตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและรถมอเตอร์ไซค์ที่คุณรัก

สำหรับใครที่กำลังมองหาโช๊คอัพที่มีคุณภาพ และช่วยทำให้รถมอเตอร์ไซค์คุณดูโดดเด่นมากขึ้น สามารถดูผลิตภัณฑ์โช๊คอัพทั้งหมดได้ที่นี่ครับ